กลิ่นปากเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยหากเป็นเพียงแค่การขาดการทำความสะอาด เพียงแค่แปรงฟัน อุดฟัน หรือขูดหินปูน กลิ่นปากก็จะลดลงได้แล้ว แต่สำหรับบางกรณี แม้จะรักษาความสะอาดมากเท่าไร กลิ่นปากที่มีก็ไม่เคยลดน้อยลงเลย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นเช่นนี้ เราอยากให้ลองสังเกตดูว่าในปากของคุณมีสิ่งนี้อยู่หรือไม่ เพราะนี่แหละคือตัวการสำคัญที่ทำให้ “ปากเหม็น” ของจริง
สิ่งผิดปกตินี้เรียกว่า “ขี้ไคลทอนซิล” ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนเล็กๆ สีขาว สีเหลืองอ่อน หรือสีเทาคล้ำ ก้อนนี้จะอาศัยอยู่ตรงต่อมทอนซิล และมีกลิ่นเหม็นที่รุนแรงมาก บางทีอาจพบตามซอกหลืบต่างๆ ภายในบริเวณคอหอย หรือโพรงหลังจมูกซ้ายหรือขวา ในลักษณะก้อนเดียวหรือหลายก้อนก็ได้
ก้อนดังกล่าวเกิดจากการสะสมของเศษอาหาร รวมไปถึงแบคทีเรีย สารคัดหลั่งต่างๆ จากโพรงจมูก หรือผู้ที่ป่วยเป็นไซนัสอักเสบ หรือโรคกรดไหลย้อน ซึ่งสามารถเกิดได้ในทุกเพศทุกวัย ขึ้นอยู่กับโครงสร้างบริเวณต่อมทอนซิลของแต่ละคนว่ามีโพรงหรือซอกหลืบมากน้อยแค่ไหน
ขี้ไคลทอนซิลนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงนอกไปเสียจาก “ความรำคาญ” เท่านั้น อาการที่พบ เช่น เจ็บคอ รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรติดอยู่ในลำคอ และที่สำคัญที่สุดคือ การมีกลิ่นปาก ที่อาจทำให้คุณเสียเซลล์ เสียงาน หรือเสียคนรักได้เลย
อย่างไรก็ตาม หากเราเพิกเฉยไม่คิดจะเอามันออกไป ก้อนขี้ไคลทอนซิลที่สะสมอยู่นานๆก็จะมีสารแคลเซียมไปเคลือบจนกลายเป็น ‘ก้อนนิ่วแข็งๆ’ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บคออย่างหนัก ไอเรื้อรัง หรือ ไอจนปวดร้าวไปถึงบริเวณหูได้
เมื่อเจอแล้วต้องการกำจัดมันทิ้งไป ให้ทำดังนี้ค่ะ
1. แบบปกติ กลั้วคอแรงๆ ด้วยน้ำเปล่า น้ำเกลือ หรือน้ำยาบ้วนปาก พร้อมขากเสมหะแรงๆ หรือจามแรงๆ เพื่อดันให้ขี้ไคลทอนซิลหลุดออก
2. แบบไม่ปกติ ถ้าใครทำแบบที่ 1 แล้วไม่สำเร็จ คุณจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป ห้ามเด็ดขาดกับการใช้ไม้จิ้มฟันหรือก้านใดๆ เขี่ยมันออกมา เพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบเป็นแผล และติดเชื้อได้
แต่หากทำทุกวิถีทางแล้วก็ยังไม่สามารถกำจัดเอาก้อนขี้ไคลทอนซิลออกไปได้ แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัดโดยจี้ให้ซอกหลืบในต่อมทอนซิลกว้างขึ้น จนไม่มีอะไรตกค้างได้ หรืออาจจะผ่าตัดเอาต่อมทอนซิลออก
แม้ว่าขี้ไคลทอนซิลจะไม่ใช่เรื่อหนักหนาสาหัสอะไร แต่ก็อาจสร้างความรำคาญใจในการดำเนินชีวิตให้แก่คุณไม่มากก็น้อย วิธีป้องกันไม่ให้มีขี้ไคลทอนซิลนั้นทำได้ยาก เพราะช่องว่างบริเวณต่อมทอนซิลของแต่ละบุคคลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทุกอย่างจึงอยู่ที่การทำความสะอาดของคุณ ให้เข้าไปใกล้กับซอกหลืบเหล่านี้มากที่สุด และคอยสังเกตตัวเองอยู่เสมอ เพื่อแก้ไจกลิ่นปากให้ทันเวลาก่อนที่คนข้างๆจะเป็นลมไปเสียก่อน
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก รศ. นพ. ปารยะ อาศนะเสน ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ หาหมอ.com
อยากแชร์กดแชร์ได้เลย
http://www.the-bestinfo.com/archives
EmoticonEmoticon